มีกลยุทธ์ที่สำคัญในการนำ Tacit
Knowledge และ Explicit Knowledge มาแบ่งปันกันอยู่สองกลยุทธ์ คือ
1) Codification Strategy
มีวัตถุประสงค์ที่จะรวบรวมความรู้ จัดเก็บไว้ในฐานข้อมูล
และนำออกใช้อย่างเป็นหมวดหมู่ในรูปที่เป็น Explicit Knowledge ซึ่งการนำ Explicit Knowledge มาใช้ซ้ำผ่านกระบวนการจัดการเช่นนี้จะสามารถประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย
การออกแบบฐานข้อมูล การบริหารงานเอกสาร และสายการจัดการเพื่อการใช้ข้อมูล
จัดเป็นส่วนหนึ่งของ Codification Strategy ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสำหรับองค์กรที่กลยุทธ์ทางธุรกิจมีความต้องการใช้ซ้ำความรู้ที่มีอยู่
2) Personalization Strategy
เน้นที่การนำ IT มาช่วยบุคคลสื่อสารความรู้ระหว่างกัน
มีวัตถุประสงค์ที่จะถ่ายโอน สื่อสาร
และแลกเปลี่ยนความรู้ผ่านเครือข่ายความรู้เช่นการอภิปราย
หากองค์กรใดมีกลยุทธ์ทางธุรกิจที่จะสร้างคำตอบใหม่ๆหรือเป็นการเฉพาะให้กับลูกค้าหรือเป็นการสร้างนวัตกรรม
องค์กรนั้นควรเลือกกลยุทธ์การจัดการความรู้ประเภท Personalization
Strategy มากกว่าCodification Strategy
การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (Knowledge Sharing) คือ การที่กลุ่มคนที่มีความสนใจในเรื่องใดเรื่องหนึ่งร่วมกัน มารวมตัวกันและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ด้วยความสมัครใจ
เพื่อร่วมสร้างความเข้าใจหรือพัฒนาแนวปฏิบัติในเรื่องนั้นๆ
องค์ประกอบหลักที่สำคัญๆ ของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
(Knowledge Sharing) มีอยู่ด้วยกัน 3 องค์ประกอบ ได้แก่
คน (People) – ถือว่าเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุด
เพราะเป็นแหล่งศูนย์รวมของความรู้ที่สมควรนำออกมาแบ่งปันเป็นอย่างยิ่ง
โดยก็ควรจะเป็นคนที่มีความรู้จากการปฏิบัติจริง
และอยากจะมาแบ่งปันและแลกเปลี่ยนความรู้นั้น ด้วยความเต็มใจ
สถานที่ และบรรยากาศ (Place) – เป็นองค์ประกอบที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่จะทำให้การแลกเปลี่ยนเรียนรู้มีชีวิตชีวาและน่าสนใจ
เพราะสถานที่และบรรยากาศที่ดี (สบายๆผ่อนคลาย) มีความเหมาะสมกับแต่ละกลุ่มคน
จะทำให้คนเหล่านั้นมาเจอกันพูดคุย ปรึกษา วิเคราะห์ปัญหา แบ่งปัน และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกันอย่างสบายใจ
สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ (Infrastructure) - เป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่ช่วยให้การแบ่งปันและแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกิดได้ง่ายและสะดวกขึ้น
เช่น กระดานสำหรับเขียน คอมพิวเตอร์สำหรับการสรุปและจัดเก็บความรู้รวมถึงการแบ่งปัน (Share) หรือการส่งต่อข้อมูล
และเมื่อมีองค์ประกอบทั้ง 3 ประการพร้อมแล้ว การที่จะทำให้การแลกเปลี่ยนเรียนรู้นั้นประสบความสำเร็จ
และใช้ประโยชน์ได้จริง ก็ควรคำนึงถึงปัจจัยที่สำคัญๆของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่มีประสิทธิผล (Effective Knowledge Sharing) ดังนี้
ปัจจัยหลักของการแบ่งปันและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 6 ประการ ได้แก่
1. กำหนดเป้าหมายการแบ่งปันและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ให้ชัดเจนและสัมพันธ์กับเป้าหมายทางธุรกิจ
2. สร้างผู้นำที่เป็นแบบอย่าง
3. สร้างเครือข่ายของผู้มีความรู้จากการปฏิบัติ (Human
Networks)
4. กำหนดวิธีการแบ่งปันและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ให้เหมาะกับวัฒนธรรมองค์กร
5. แบ่งปันและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่นำไปใช้ในงานประจำวันได้
6. สร้างแรงจูงใจที่สนับสนุนการแบ่งปันและแลกเปลี่ยนเรียนรู้
1) มีความสามารถพิเศษในการแก้ปัญหาใหม่ ๆ
2) มีความคิดจิตใจที่เป็นอิสระ
3) การจูงใจที่ดีคือการยอมรับเมือเขาสามารถทำงานได้บรรลุผลสำเร็จ
4) ชอบทำงานเป็นทีม
5) ไม่ชอบการควบคุม
6) ชอบที่จะแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระในการสร้างทีม
การบริหารจัดการโดยใช้วิธีควบคุมและการกำกับทีม จะทำให้ความสำเร็จของงานที่ได้ไม่ยั่งยืน แต่ทีมที่สามารถควบคุมดูแลตนเองได้จะเป็นทีมที่มีประสิทธิภาพมากกว่า เพราะทีมจะมีคุณลักษณะเฉพาะคือ ชอบที่จะเรียนรู้ในการควบคุมตนเอง องค์กรเพียงมีแนวทางและเป้าหมายที่ชัดเจนมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ทีมสามารถสร้างสรรค์ผลงานร่วมกันได้อย่างอิสระ (Delegate
& Support) เขาจะสามารถนำพาองค์กรสู่ความสำเร็จได้โดยง่าย
4. Leverage of knowledge assets
4. Leverage of knowledge assets
Knowledge
asset คือ ความรู้ที่สร้างขึ้นมาได้จาก SECI
( SECI คือกระบวนการสร้างความรู้ )
Knowledge
asset แบ่งเป็น 4 แบบ
1. Experimental - ความรู้แบบ tacit ที่เกิดจากประสบการณ์ในการทำงาน
และสายสัมพันธ์ระหว่างพนักงาน ลูกค้า คู่ค้า ฯลฯ ได้แก่:
ทักษะในการทำงานของแต่ละคน, ความรักในการทำงาน,
passion
2. Conceptual - ความรู้แบบ explicit ที่แสดงออกผ่านภาพลักษณ์
สัญลักษณ์ และภาษา ได้แก่: คอนเซปต์ผลิตภัณฑ์, ดีไซน์, แบรนด์
3. Routine - ความรู้แบบ tacit ที่วนๆ
เป็นรูทีนอยู่ในองค์กร เช่น ทักษะในการทำงานของทีม
วิธีหรือขั้นตอนการทำงานในองค์กร วัฒนธรรมองค์กร
4. Systemic - ความรู้ explicit ที่จัดทำเป็นแพกเกจ เช่น
เอกสาร คู่มือ สเปก database สิทธิบัตร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น